สหรัฐฯเตรียมส่งขีปนาวุธพิสัยไกล เสริมทัพยูเครนตามคำขอ!
สื่อหลายสำนักในสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สัญญาที่จะส่งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลขั้นสูง 'ATACMS' (Army Tactical Missile System) หลังจากประธานาธิบดีไบเดนได้พบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โดยคาดว่าระบบยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลขั้นสูง 'ATACMS' ที่มีพิสัยทำการไกลถึง 190 ไมล์ หรือ 304 กม.จะถูกส่งไปยังยูเครนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ผู้นำยูเครนขึ้นเวทียูเอ็น จี้รัสเซียยุติสงคราม ให้โลกแก้วิกฤตอื่น
“ประธานาธิบดีเซเลนสกี” เยือนแคนาดา หารือความช่วยเหลือเพิ่ม
จับตาการประชุม UNGA ครั้งที่ 78 เซเลนสกีเข้าประชุมด้วยตนเอง
ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้พยายามขอให้รัฐบาลสหรัฐฯส่งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล 'ATACMS' มาช่วยสนับสนุนยูเครน ในการโจมตีฐานทัพอากาศและระบบเครือข่ายการเดินรถไฟที่อยู่ลึกเข้าไปจากแนวรบของรัสเซีย โดยไม่ต้องเคลื่อนกำลังทหารประชิดพื้นที่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ตาม ทางทำเนียบขาวยังไม่ได้ประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะส่งขีปนาวุธพิสัยไกล 'ATACMS' มาให้ยูเครนตามคำขอ
นอกจากนี้ขีปนาวุธรุ่นดังกล่าวไม่ได้อยู่ในประเด็นที่รัฐบาลสหรัฐฯ นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะระหว่างที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีร่วมหารือกับประธานาธิบดี ไบเดน ที่ทำเนียบขาว ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่แก่ยูเครนเป็นมูลค่า 325 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 12,000 ล้านบาท
ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังคงปฏิเสธที่จะยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สัญญาจะส่งขีปนาวุธไปให้แก่ยูเครน ในระหว่างที่ประธานาธิบดีไบเดนพบหารือกับนายเซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาว
ขณะเดียวกัน นาย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างการร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ว่าสหรัฐฯและชาติพันธมิตรตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้องต่อสงครามกับรัสเซียโดยตรง ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธและเทคโนโลยีให้แก่ยูเครนที่ถูกใช้เป็นหุ่นเชิด
นอกจากนี้ นาย ลาฟรอฟ ยังวิจารณ์แผนสันติภาพ 10 ข้อที่ยูเครนเสนอเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย ว่าไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยย้ำว่าหากรัฐบาลยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตกยังยึดมั่นในจุดยืนเดิม ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายต้องยุติกันที่สนามรบเท่านั้น
ส่วนข้อเรียกร้องของสหประชาชาติที่ต้องการให้รัสเซียกลับเข้าร่วมข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านเส้นทางทะเลดำ นาย ลาฟรอฟ ย้ำว่าสาเหตุที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงนี้ เป็นเพราะไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ต้องอนุญาตให้รัสเซียสามารถใช้ระบบการชำระเงินระหว่างประเทศได้ตามปกติ
ขณะที่เมื่อวานนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพรัสเซียได้โจมตีกลุ่มเป้าหมายในยูเครน 12 กลุ่ม โดยสามารถทำลายเครื่องกระสุนติดยูเรเนียมด้อยสรรถถนะและขีปนาวุธ เป็นจำนวนวนมาก
ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธ “สตอร์ม ชาร์โดว์” ที่กองทัพ ยูเครนใช้ในการโจมตีกองบัญชาการใหญ่ กองทัพเรือทะเลดำของรัสเซียในไครเมีย เมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ รัสเซียยังโจมตีเป้าหมายทางทหารอื่นๆทั้งสถานที่ซ่อมบำรุงเครื่องบินและยานยนต์หุ้มเกราะ โรงเก็บเครื่องกระสุนและอาวุธที่ยูเครนได้รับจากประเทศอื่น ศูนย์ฝึกซ้อมสำหรับหน่วยก่อวินาศรรมยูครน รวมทั้งที่พักของทหารรับจ้างต่างชาติ