MG เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า 100% 2 แบบ 2 สไตล์ เลือกคันไหนก็คุ้ม
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย NEWMGMAXUS 9รถลักชัวรี่MPVไฟฟ้า100%แบบ 7 ที่นั่งเป็นพวงมาลัยขวาคันแรกของประเทศไทยและอาเซียนที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์อีวีสุดหรูหรา เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ล้ำสมัย ผสานลงตัวกับงานดีไซน์รูปโฉมใหม่ โดดเด่นด้วยหลังคาDual Panoramic Sunroofยาวถึงด้านหลังทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่ง
สัมผัสกับความสะดวกสบายครั้งใหม่ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับอัตโนมัติ 4 ทิศทาง และเบาะนั่งแถวที่สองแบบVIP Captain Seatที่มีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการ มอบประสบการณ์MPVไฟฟ้า 100% เต็มประสิทธิภาพด้วยมอเตอร์ให้กำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ความจุขนาด 90kWhให้ระยะวิ่งสูงสุดที่540กิโลเมตร ตามมาตรฐานNEDCมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยรอบคันADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEMมากถึง 25 ระบบ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัย 5 ดาว ทั้งEURO NCAPและAUSTRALIAN NCAPซึ่งNEWMGMAXUS 9จะมีให้เลือก2รุ่น คือ รุ่นX – LUXURYและ รุ่นV –SUPER LUXURY
ทั้งนี้ เอ็มจี ได้ให้เอกสิทธิ์คนไทยที่สนใจเป็นเจ้าของด้วยการเปิดรับจองล่วงหน้า พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ จอง20,000 บาท ได้ส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น40,000บาทภายในงานมอเตอร์โชว์และ โชว์รูมเอ็มจี รวมทั้งช่องทางเว็บไซต์https://onlinebooking.mgcars.com/และแอพพลิเคชันMGTHAILANDโดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
และอีกหนึ่งความสะดวกสบายNEWMGESสเตชันวากอนไฟฟ้า100%รุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์“COMFORTABLEเป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์”สานต่อความมุ่งมั่นในการนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพที่ผสมผสานดีไซน์อันเรียบหรูดูล้ำสมัยในแบบฉบับNew Era Designพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางพร้อมฟังก์ชันสุดครบครัน ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ และความปลอดภัยเหนือชั้น เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เน้นไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ชูจุดขายในเรื่องดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัย พร้อมความสะดวกสบายและความอเนกประสงค์ที่มากยิ่งขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เอ็มจีย้ำภาพความเป็นผู้นำอีวีในไทยแนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่เสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งและหลากหลายมากยิ่งขึ้นกับNEWMGESรถสเตชันวากอนไฟฟ้า100%ที่โดดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวางและฟังก์ชันที่เน้นความสะดวกสบาย กับประสบการณ์ใหม่ของการใช้รถไฟฟ้า ที่ตอบสนองมากกว่าแค่การใช้งานทั่วไป แต่สามารถเติมเต็มทุกโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว
NEW ERA DESIGNเรียบหรูดูล้ำสมัย แฝงไปด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ชุดกันชนหน้าไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบLight Curtain Designยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เสริมการใช้งานมากขึ้นด้วยชุดราวหลังคา(Roof Rail)ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง75กิโลกรัม และด้วยรูปโฉมสไตล์สเตชันวากอน จึงมาพร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย ทั้งยังสามารถบรรจุสัมภาระสูงสุดถึง1,367ลิตร ตกแต่งภายในด้วยเส้นสายโทนสีฟ้าENERGETIC BLUE STRIPให้ภายในหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งวัสดุหุ้มหนังสังเคราะห์DENIM TEXTURE DESIGNให้ผิวสัมผัสคล้ายยีนส์ ปรับลุคให้ดูมีความทันสมัยและดูแลรักษาง่าย ชุดเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ยกขอบปีกข้าง พร้อมเทคโนโลยีZero-G Seatsกระจายน้ำหนักและรองรับสรีระของผู้นั่งให้ดียิ่งขึ้น เดินทางระยะไกลได้สบาย
E- PERFORMANCE:สเตชันวากอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ
เต็มที่ในทุกการเดินทางด้วยนวัตกรรมรถไฟฟ้าใหม่NEWMGESมาพร้อมแพลตฟอร์มระบบส่งกำลัง ใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง53%ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUSMOTOR (PMSM)ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ซึ่งมอเตอร์แบบใหม่นี้ให้การตอบสนองที่ดีขึ้น โดยสามารถปรับเร่งรอบได้สูงถึง15,000รอบ/นาที ทำให้NEWMGESสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง185กิโลเมตร/ชั่วโมง เสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ไปอีกระดับด้วยระบบKERS (Kinetic Energy Recovery System)ถึง3ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย เข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพกับรัศมีวงเลี้ยวเพียง5.95เมตร
NEWMGESมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP)ความจุ 51kWhมีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง22%และระบบLiquid Cooling Systemช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้สมรรถนะในการขับเคลื่อนได้ไกลถึง 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐานNEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)รองรับการชาร์จทั้งแบบQuick Chargeจาก0% – 80%ใช้เวลาประมาณ40นาที ที่ความเร็วสูงสุด87 kWและNormal Chargeรองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11kWใช้เวลาการชาร์จจาก 0% – 100% 7 ชั่วโมง 15 นาที ผ่านMGHOME CHARGERที่ 6.6kWอีกทั้งยังรองรับระบบV2L (Vehicle to Load)เปลี่ยนรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด2,200วัตต์
SAFETY:ปลอดภัยและอุ่นใจ…สบายใจทุกการเดินทาง
มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยFSF (Full Space Frame)ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEMและระบบADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS)รวม20ระบบ อาทิ ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้งCBC (Curve Brake Control)ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันACC (Adaptive Cruise Control)ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่FCW (Forward Collision Warning)และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติAEB (Autonomous Emergency Braking)ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลนELK (Emergency Lane Keeping Assist)ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยางTPMS (Tire Pressure Monitor System)เป็นต้น นอกจากนี้NEWMGESยังมาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะi-SMARTในรูปแบบLite versionที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและรับการแจ้งเตือนสำคัญของรถเอ็มจีของตัวเองได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ระบบสั่งการกุญแจดิจิตอล ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉินEmergency Callหรือระบบสั่งการชาร์จ สถานีMGSUPER CHARGEเป็นต้น
NEWMGESมาพร้อมกับสีตัวถังให้เลือกถึง5สี ได้แก่สีขาว(Arctic White)สีดำ(Black Knight)สีเทา(Andes Gray)สีแดง(Scarlet Red)และ สีเงิน(Champagne Silver)และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทน พร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์DENIM TEXTURE DESIGN
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์(ประเทศไทย)จำกัดกล่าวว่าNEWMGESจัดจำหน่ายในราคาสุทธิที่959,000บาท กับข้อเสนอพิเศษในช่วงเปิดตัว รวมมูลค่ากว่า90,453บาทจะมีกำหนดการทยอยส่งมอบให้ถึงมือลูกค้าภายในเดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในฐานะ ผู้บุกเบิกและผู้นำตลาดรถไฟฟ้าในไทย ไม่เพียงนำเสนอยนตรกรรมที่มีความก้าวล้ำทางด้านสมรรถนะและผสมผสานเข้ากับดีไซน์ที่เรียบหรูแต่ครบครันไปด้วยฟังก์ชันที่ใช้ได้จริงแล้ว เอ็มจี ยังเดินหน้าขยายระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า หรือEV ECOSYSTEMให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมอีวีอย่างแท้จริง
ทั้งการตั้งเป้าหมายการขยายสถานีชาร์จเร็ว หรือMGSUPER CHARGE STATIONในโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ ให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบายทั่วประเทศ โดยทุกๆ150กิโลเมตร จะมีสถานีชาร์จอย่างน้อย1สถานีให้บริการ อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จแบบไวในพื้นที่ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายในการดูแลและบำรุงรักษารถไฟฟ้าโดยช่างผู้ชำนาญงานในทุกศูนย์บริการเอ็มจี เพื่อทำให้คนไทยมั่นใจในการใช้รถไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง